พัฒนาระบบให้บริการการตลาดแบบดิจิตัลของศูนย์ส่งเสริมธุรกิจจากทรัพยากรชีวภาพ

Abstract

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบให้บริการการตลาดแบบดิจิทัลของศูนย์ส่งเสริมธุรกิจจากทรัพยากรชีวภาพ เพื่อให้วิสาหกิจมีช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ และมีสื่อออนไลน์ที่สามารถนำผลิตภัณฑ์จากทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนเข้าสู่ตลาดออนไลน์ได้ผลการศึกษา พบว่า แนวทางการพัฒนาเว็บฟ้าใสแกลอรี่ (www.fahsaigallery.com) คือ ควรพัฒนาเว็บไซต์ให้มีความสวยงามและรองรับการใช้งานผ่านมือถือ ควรปรับปรุงกระบวนการขายสินค้าโดยเพิ่มช่องทางการขายสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น เช่น เปิดบัญชี LINE@ และเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านสื่อสังคม เป็นต้น รวมทั้งควรมีการส่งเสริมการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างสม่ำเสมอตามช่วงระยะเวลา เช่น รายสัปดาห์ หรือ รายเดือน และ ตามช่วงเทศกาล นอกจากนั้นควรมีการเชื่อมโยงลูกค้าจากหน้าร้านค้าฟ้าใสให้เป็นผู้ติดตามในสื่อออนไลน์ โดยอาจตั้งสื่อประชาสัมพันธ์ที่หน้าร้านค้า เช่น ป้าย QR Code LINE@ เป็นต้น ส่วนแนวทางการพัฒนารูปแบบการจำหน่ายสินค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของศูนย์ส่งเสริมธุรกิจจากทรัพยากรชีวภาพให้ไปสู่การจำหน่ายแบบ Mobile Commerce และ Social Commerce คือ ควรเพิ่มช่องทางการขายสินค้าผ่าน LINE@ และ Facebook และควรปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับการแสดงผลผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือสำหรับแนวทางการพัฒนารูปแบบเว็บไซต์ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลผู้จำหน่ายสินค้าทรัพยากรชีวภาพ คือ ควรจัดทำหน้าเพจของเว็บไซต์เพื่อเชื่อมโยงลูกค้าไปสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายชองชุมชน และควรจัดทำเนื้อหาที่เกี่ยวกับวิสาหกิจชุมชนเครือข่ายเพื่อเผยแพร่ไปยังช่องทางเว็บไซต์และสื่อสังคม รวมทั้งควรสื่อสารผ่านทางสื่อสังคม Facebook และ LINE@ เกี่ยวกับกิจการของวิสาหกิจชุมชนเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับการขายสินค้าของเว็บไซต์ฟ้าใสแกลอรี่ ส่วนแนวทางการพัฒนาระบบชำระค่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และระบบการขนส่งที่เหมาะสม คือ ควรเปิดบัญชีธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นในหลายธนาคาร เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าในการชำระเงิน นอกจากนั้น หากมีนโยบายให้สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมการชำระเงินได้ ควรเพิ่มระบบช่องทางชำระเงิน (Payment Gateway) ที่หน้าเว็บไซต์ และ Social Media เช่น บริการของ Pay Solutions ที่สามารถชำระเงินผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมได้ทันที โดยมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 3.5-7% ของราคาขายสินค้า The objective of the project is to develop a digital marketing service system of Biodiversity-based Economy Development Office (BEDO) that offers state-owned enterprises more online marketing opportunities together with online media that can bring products based on biodiversity and local wisdom of the community to online markets. The study shows ways to develop www.fahsaigallery.com as follows: The website should be appealing and able to accommodate operation through mobile devices. The product selling process should be improved and facilitated through a greater variety of channels, e.g. opening LINE@ accounts and payment through various social media. Marketing promotion should be proactively launched to stimulate sale on a regular basis, be it weekly or monthly, and during festive seasons. In addition, efforts should be made to connect and turn customers of Fahsai store fronts into online followers, while publicity media and materials should be available and more visible such as QR Code LINE@ signs. With regard to ways to develop forms of e-selling of BEDO products into mobile commerce and social commerce, sale should be made through more channels such as LINE@ and Facebook, while its webpage should be suitable for display on mobile phones. To develop a website format that can link to the vendors of biodiversity-based products, the website page should be made in such a way that allows customers to link to distribution channels of the community, while the contents should give information about community enterprise networks, thus making such information available on other websites and social media. Communication about activities of community enterprise networks should also be made via social media, Facebook, and LINE@ on a regular basis, while selling the products on www.fahsaigallery.com. To develop an appropriate system of e-payment and transportation, more commercial bank accounts should be opened at various banks, thus making it more convenient for customers to make payment. In addition, if there is a policy that facilitates the payment of service fees, a payment gateway should be added on the website page and other social media, for instance, Pay Solutions that provides prompt e-payment services with a fee of 3.5-7% of the product price.